
- Red Sea
- Dead Sea
- Wadi Rum
- Petra by day/night
ทริปนี้เป็น road trip ครั้งแรกของพวกเรา เราจะพาไปชมพื้นที่ดินที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล (Dead Sea) ดำน้ำทะเลแดง อ่าวในมหาสมุทรอินเดียระหว่างทวีปแอฟริกากับเอเชีย (Red Sea) อารยธรรมโบราณนครศิลาสีกุหลาบ (Petra) และทะเลทรายสีแดงวาดิรัมค่ะ (Wadi Rum)
Dead Sea
เราไปกันตอนปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน ช่วงนั้นอากาศดีไม่หนาวแล้วก็ยังไม่ร้อน เหมาะกับการมาเที่ยวประเทศทะเลทรายมากกก แต่ก่อนที่เราจะขับไปทะเลทรายเราได้มีโอกาสไปลอยตัวใน Dead Sea กัน ซึ่งเป็นทางผ่าน ลอยได้จริงๆนะคะ พวกเราตื่นเต้นมากเสียงดังสุดในหาดเลย ที่นี่เป็นจุด ที่ต่ำสุดในโลก อยู่ใต้ระดับน้ำทะเล 400 กว่าเมตรใครที่คิดจะมาเล่นน้ำอย่าพลาดเหมือนพวกเรานะคะปิดปากปิดตาให้ดี น้ำเค็มมากค่ะ แสบตาไปหมดเลย
Wadi Rum
วันที่สามของการเดินทาง หลังจากที่พนักงานโรงแรมจัดการเปลี่ยนยางรถให้เสร็จ (โชคดียางแตกที่โรงแรม :D) พวกเราก็ขับรถกันประมาณ 4ชม เพื่อไปทะเลทราย Wadi Rum ที่ตั้งอยู่ตอนใต้ของประเทศ
ที่นั้นสวยมาก เหมือนเราได้หลุดเข้าไปในอวกาศ คิดว่าอยู่ดาวอังคารมากกว่า ใครเคยดูหนังเรื่อง Martian คงพอจะเห็นภาพ
ก่อนจะเข้าที่พักก็ได้นั่งกระบะไปสถานที่ต่างๆในทะเลทราย ใช้เวลา สาม ชม ก่อนจะไปที่ camp ที่พักของพวกเราอยู่ใน Luxury Night Camp เป็น tent ที่มีหลังคาใส เราสามารถนอนดูดาวได้เลย ชอบมากเลยอันนี้ โดนมาก
Red Sea และเป็นเขตปลอดภาษี มีชายแดนติด Saudi Arabia และ Israel
ที่นี่อาหารอร่อยด้วยนะ แต่ถ้าใครไม่ทานเนื้อสัตว์ก็ลำบากหน่อย แต่ให้อภัยเพราะกลางคืนดาวสวยเวอร์ คุ้มมากที่มานอนที่นี่ ถึงจะแพงกว่าที่อื่นหน่อย แต่สะอาด ห้องน้ำใช้ได้ มีน้ำร้อน ถึงแม้จะร้อนๆหนาวๆก็เหอะ ดีกว่าไม่ได้อาบ มีห้องน้ำใน tent เลย ตอนกลางคืนไม่ต้องเดินออกไปเข้าห้องน้ำรวม ใน tent ก็อุ่น มีผ้าหมให้พร้อม ใครมีงบมากกว่านี้ จะมีอีกที่หนึ่งนะ แต่อันนั้นคืนละ $700 สำหรับเราแค่นี้พอแล้ว เอาเงินไปเที่ยวที่อื่นดีกว่า สำหรับคนงบน้อยที่ Wadi Rum ก็มีที่พักราคาเป็นกันเองเหมือนกัน
หลังจากขับรถมา 1ชม จาก Wadi Rum พวกเราก็ถึงที่ Aqaba เมืองนี้ตั้งอยู่ตรง Red Sea และเป็นเขตปลอดภาษี มีชายแดนติด Saudi Arabia และ Israel สามารถข้ามเรือไป Egypt ได้ด้วยนะ ข้ามฝั่งไปก็ถึง
Diving in Red Sea
ถึงแม้อากาศจะหนาวผิดฤดู พวกเราตัดสินใจดำน้ำอยู่ดี น้ำเย็น 20 องศา ไม่มีสีสันเท่าที่สิมิลัน แต่ก็ได้ดำเป็นประสบการณ์ ถือว่าโอเค วันนี้ถือเป็นวันพัก ไม่ต้องทำอะไรมาก นั่งรับแสงแดด และพักเหนื่อยเพื่อที่พรุ่งนี้จะได้ทีแรงเดินที่ Petra
Petra by day
ก่อนที่จะเข้าไปสำรวจ Petra ควรจะกินให้อิ่มก่อนนะคะเพราะต้องใช้เวลาเดินอย่างน้อยครึ่งวัน ถ้าอยากดูให้ครบก็ต้องมีเวลาให้กับที่นี่หนึ่งถึงสามวันค่ะแล้วแต่ว่าจะเจาะลึกขนาดไหน ค่าเข้า 50JD ก็เท่ากับ 2000 กว่าบาท ถือว่าแพงอยู่ค่ะ ถ้าจะให้คุ้มก็ไปกันแต่เช้านะคะ
พวกเรามีเวลากันแค่ครึ่งวัน ก็เดินกันอย่างเร็วเลยเพื่อที่จะประหยัดเพราะเราเลือกเดินแทนที่จะใช้รถม้าหรือขี่อูฐ ตอนที่ขึ้นบันไดไปที่ตัววัดโบราณเราก็เดินค่ะ 800 ขั้นบันไดหินเดินยากพอๆกับกำแพงเมืองจีนนะคะ สำหรับผู้ใหญ่สามารถขี่ลาขึ้นไปได้ค่ะ แต่รู้สึกว่าจะต้องเดินลงนะใครเดินไม่ค่อยไหวมาที่นี่ก็คงต้องคิดดีๆนิดหนึ่งนะคะ ถ้าไม่เน้นอะไรมากดูแค่ Treasury ก็พอค่ะ เพราะว่าสวยสุดแล้วแหละ
แนะนำให้ อยู่ถึงตอนเย็นๆ นักท่องเที่ยวทัวร์จะกลับออกไปหมดแล้ว เราก็จะสามารถถ่ายรูปที่ไม่ติดคนค่ะ แฮปปี้เลย
พวกเราใช้เวลาเดินกันทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมงนะคะ น่าจะประมาณ 15 กิโลได้ที่เดินกันไปทั้งหมดวันนั้น สู้ตายค่ะ เดี๋ยวหลังจากกินข้าวเย็นก็ต้องกลับเข้ามาใหม่ เพื่อมาดู Petra by night
Petra by night
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ เราก็ได้เตรียมตัวกลับเข้าไป Petra อีกครั้ง คราวนี้จะไปถึงแค่ Treasury เดินไปกลับ 1 ชั่วโมงค่ะ ทั้งหมดวันนี้เราก็จะเดินกันประมาณ 20 กม ทั้งสองข้างทางมีการจุดตะเกียงวางไว้ สวยมากค่ะ บรรยากาศเหมือนเรากำลังจะเดินเข้าไปในสวนสนุกหรือเล่นเกมส์อะไรสักที่หนึ่ง ตื่นเต้นมากค่ะ เป็นคนละเรื่องกับตอนกลางวันเลย เราชอบบรรยากาศตอนกลางคืนมากกว่าอีก ดูลึกลับดีค่ะ เหมือนมีมนต์ขลัง ทุกคน โดนสะกดให้เดินไปตามทางเขาไปถึงข้างหน้า Treasury ที่นั่นจะมีเถียนวางไว้ข้างหน้าเต็มเลยค่ะ แล้วเค้าก็จะจัดที่นั่งให้เรานั่งกันเป็นระเบียบ ถ้าใครไม่อยากนั่งก็ไปยืนได้ตามสองข้างค่ะเราเลือกที่จะไปยืนอยู่ด้านหนึ่ง จะได้ถ่ายรูปสะดวกงานนี้ประทับใจมาก มีโชว์ด้วยนะคะ พอดูเสร็จเค้าก็ปล่อยตามอัธยาศัย ถ่ายรูปเล่นด้วยกันตามสบายค่ะงานจะปิดประมาณสี่ทุ่มกว่า