7 วันกับการขับรถเที่ยวที่จอร์แดน สนุกมาก เราไปกันเดือน 3 อากาศดีไม่หนาว แต่ก็ยังไม่ร้อนนะ เหมาะกับการมาเที่ยวประเทศทะเลทรายค่ะ ทริปนี้ที่จริงเป็น road trip ครั้งแรกของเราสองคน เมื่อปี 2016 ไม่ได้เขียนอะไรมาก เลยเอากลับมาเล่าให้ฟังกันค่ะ อาจจะไม่ detail เท่าไหร่ เป็นการแปลจาก diary ที่เขียนเก็บไว้
Blog นี้เขียนไม่เยอะ เน้นรูปแล้วกันเนอะ ??
Day 1
เริ่มๆ บินออกจากสนามบิน Gatwick ไป Amman via Athens เพราะมันถูกกว่าการบิน direct flight ออกจาก Heathrow งกแหละ ? กว่าจะถึงสนามบิน Queen Alia International airport ก็เย็นแล้ว หมดแรงมาก เรามาทำ visa on arrival ที่สนามบิน เลยเสียเวลานิดหน่อย หลังจากนั้นก็ไปซื้อซิม แล้วก็เช่ารถ เราเก่ามากสุด แนะนำว่าถ้าใครงบเยอะ ให้เช่า SUV ไม่งั้นก็รถ sport ถนนเค้าดีมากค่ะ แล้วก็น้ำมันไม่แพง
การขับรถที่นี่ง่ายนะ นอกจากในเมืองหลวง รถไม่เยอะเลย ขับสบาย ปลอดภัย มีด่านตรวจบ่อย เราโดนวันละ 2 รอบได้ เค้าจะขอดู passport กับใบขับขี่ ส่วนมากพูดอังกฤษไม่ได้ ก็จะไม่ถามอะไรมากมาย
วันแรกเราก็ไม่ทำอะไรมาก ขับตรงไปที่ Madaba คืนนั้นนอน Best Western มื้อเย็นที่ Haret Jdoudna เห็นแนะนำว่าเป็นร้านที่ดีที่สุดในเมือง ลูกค้าเยอะ แต่เราว่าธรรมดานะ แอบแพงด้วย
Day 2
เช้ามาเราก็ไปเที่ยวชมแผนที่ mosaic ใน Church of St. George เล็กกว่าที่คิดไว้เยอะเลย รู้งี้ ไม่แวะ ตรงไป Dead Sea เลยดีกว่า
Dead Sea ห่างจากเมือง Madaba ประมาณ 1 ชม เราขับไปทาง Mount Nebo กันก่อน เพื่อถ่ายรูป ณ จุดที่ Moses แสดงให้เห็น Promised Land จุดนี้สวยนะคะ เป็น panoramic photo stop ถ่ายรูปเสร็จเราก็ไป checkin ที่ รร Holiday Inn ซึ่งมีหน้าหาดติดทะเลสาบเลยค่ะ สะดวกต่อการเล่นน้ำ (ที่แอบเย็นมาก) ตอนแรกไม่คิดว่าจะลอยได้ แต่เราลอยได้จริงๆนะ พวกเราตื่นเต้นมาก เสียงดังสุดในหาดเลย Dead Sea เป็นพื่นที่ที่อยู่ตํ่ากว่าระดับนํ้าทะเลมากที่สุดในโลก อยู่ใต้ระดับน้ำทะเล 400 กว่าเมตร ใครที่คิดจะมาเล่นน้ำอย่าพลาดเหมือนพวกเรานะคะ ปิดปากปิดตาให้ดี น้ำเค็มมากค่ะ แสบตาไปหมดเลย
Day 3
วันที่สามของการเดินทาง หลังจากพนักงานโรงแรมจัดการเปลี่ยนยางรถให้เสร็จ (ไม่แน่ใจว่าไปแบนตอนไหน) พวกเราก็ขับรถกันประมาณ 4ชม เพื่อไปทะเลทราย Wadi Rum ที่ตั้งอยู่ตอนใต้ของประเทศ ที่นั้นสวยมาก เหมือนเราได้หลุดเข้าไปในอวกาศ คิดว่าอยู่ดาวอังคารมากกว่า ใครเคยดูหนังเรื่อง Martian คงพอจะเห็นภาพ
รถเราไม่สามารถขับไปใน Wadi Rum ได้ เราจอดไว้ตรงทางเข้า แล้วก็นั่งกระบะเข้าไป ก่อนเข้าที่พัก รร ก็พาเที่ยวสถานที่ต่างๆในทะเลทรายก่อน ใช้เวลา 3 ชม กว่าจะถึง Luxury Night Camp เป็น glamping tent ที่มีหลังคาใส นอนดูดาวได้เลย ชอบมากเลยอันนี้ โดนมาก ดาวเต็มฟ้าเลยจ้า
ที่นี่อาหารอร่อยด้วยนะ แต่ถ้าใครไม่ทานเนื้อสัตว์ก็ลำบากหน่อย แต่ให้อภัยเพราะกลางคืนดาวสวยเวอร์ คุ้มมากที่มานอนที่นี่ สะอาด ห้องน้ำใช้ได้ มีน้ำร้อน ถึงแม้จะร้อนๆหนาวๆก็เหอะ ดีกว่าไม่ได้อาบ มีห้องน้ำใน tent เลย ตอนกลางคืนไม่ต้องเดินออกไปเข้าห้องน้ำรวม ใน tent ก็อุ่น มีผ้าหมให้พร้อม
Day 4
เช้ามาทานข้าวเสร็จ ก็กลับมาเอารถ 6am ก็ตื่นกันแล้วค่ะ มันสว่างมาก หลังจากขับรถมา 1ชม ก็ถึงที่ Aqaba เมืองนี้ตั้งอยู่ตรง Red Sea และเป็นเขตปลอดภาษี มีชายแดนติด Saudi Arabia และ Israel สามารถข้ามเรือไป Egypt ได้ด้วยนะ ข้ามฝั่งไปก็ถึง
ถึงแม้อากาศจะหนาวผิดฤดู พวกเราตัดสินใจดำน้ำอยู่ดี น้ำเย็น 20° นะ shore dive ที่ Tala bay ไม่มีสีสันเท่าที่สิมิลัน แต่ก็ได้ดำเป็นประสบการณ์ ถือว่าโอเค ต้องกลับมาลองดำ red sea ฝั่ง Egypt ใหม่ เห็นบอกว่าสวยกว่าเยอะ
วันนี้ถือเป็นวันพัก ไม่ต้องทำอะไรมาก นั่งรับแสงแดด และพักเหนื่อยเพื่อที่พรุ่งนี้จะได้มีแรงเดินที่ Petra คืนนั้นพักที่ Radisson Blu Tala Bay hotel ห่างจากเมือง 15นาที มื้อเย็นไปลองอาหารอิตาเลี่ยนที่ร้าน Romero ใน Royal Yacht Club เราชอบร้านนี้นะ
Day 5
อีกหนึ่ง highlight ของทริปเลยวันนี้ จาก Aqaba ขับ 2ชม ก็ถึง
Petra เราขับตัดภูเขาไป สวย scenic drive ดี ก่อนไปเที่ยวก็ไปเช็คอินที่ Marriott hotel ซึ่งอยู่ห่าง visitor center 5กม แถวทางเข้า Petra ร้านอาหารเยอะ และราคาไม่แพงนะคะ
ก่อนที่จะเข้าไปสำรวจ Petra ควรจะกินให้อิ่มก่อนนะคะเพราะต้องใช้เวลาเดินอย่างน้อยครึ่งวัน ถ้าอยากดูให้ครบก็ต้องมีเวลาให้กับที่นี่หนึ่งถึงสามวันค่ะ แล้วแต่ว่าจะเจาะลึกขนาดไหน ค่าเข้า50JD ก็เท่ากับ 2000 กว่าบาทถือว่าแพงอยู่ค่ะ ถ้าจะให้คุ้มก็ไปกันแต่เช้านะคะ พวกเรามีเวลากันแค่ครึ่งวัน ก็เดินกันอย่างเร็วอะค่ะ และเพื่อที่จะประหยัดเพราะเราเลือกเดินแทนที่จะใช้รถม้าหรือขี่อูฐ ตอนที่ขึ้นบันไดไปที่ตัววัดโบราณเราก็เดินค่ะ 800 ขั้นบันไดหิน เดินยากพอๆกับกำแพงเมืองจีนนะคะ สำหรับผู้ใหญ่ สามารถขี่ลาขึ้นไปได้ค่ะ แต่รู้สึกว่าจะต้องเดินลงนะ
ถ้าไม่เน้นอะไรมากดูแค่ treasury ก็พอค่ะ เพราะว่าสวยสุดแล้วแหละ แนะนำให้ อยู่ถึงตอนเย็นๆ นักท่องเที่ยวทัวร์จะกลับออกไปหมดแล้ว พวกเราใช้เวลาเดินกันทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมงนะคะ น่าจะประมาณ 15 กม ได้ที่เดินกันไปทั้งหมดวันนั้น สู้ตายค่ะ
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ เราก็ได้เตรียมตัวกลับเข้าไป Petra อีกครั้ง คราวนี้ไปถึงแค่ Treasury เดินไปกลับ 1 ชั่วโมงค่ะ ทั้งหมดวันนี้เราก็จะเดินกันประมาณ 20 กม ตอนกลางคืนทั้งสองข้างทางมีการจุดตะเกียงวางไว้ สวยมากค่ะ บรรยากาศเหมือนเรากำลังจะเดินเข้าไปในสวนสนุกหรือเล่นเกมส์อะไรสักที่หนึ่ง ตื่นเต้นมาก บรรยากาศคนละเรื่องกับตอนกลางวันเลย เราชอบบรรยากาศตอนกลางคืนมากกว่าอีก ดูลึกลับดีค่ะ เหมือนมีมนต์ขลัง ทุกคนโดนสะกดให้เดินไปตามทางเขาไปถึงข้างหน้า Treasury ที่นั่นจะมีเถียนวางไว้เต็มเลยค่ะ แล้วเค้าก็จะจัดที่นั่งให้เรานั่งกันเป็นระเบียบ ถ้าใครไม่อยากนั่งก็ไปยืนได้ตามสองข้างค่ะ เราเลือกที่จะไปยืนอยู่ด้านหนึ่ง จะได้ถ่ายรูปสะดวกงานนี้ประทับใจมาก มีโชว์ด้วยนะคะ พอดูเสร็จเค้าก็ปล่อยตามอัธยาศัย ถ่ายรูปเล่นตามสบายค่ะ งานจะปิดประมาณสี่ทุ่มกว่า พวกเราออกมาก่อนค่ะข้างในไม่มีห้องน้ำ อยู่จนปิดไม่ไหวอะ
Day 6
จุดสุดท้ายก่อนบินออก คือเมืองหลวง Amman ซึ่งตั้งอยู่ใน Jordan valley ห่างจากสนามิน 30 – 45 นาที สะดวกต่อการบินพรุ่งนี้เช้า เรามาถึงในเมืองทันมื้อเที่ยงพอดี หลังจากหนึ่งอาทิตย์กับอาหาร Arab/Western ร่างกายก็ต้องการอาหารไทยเป็นอย่างมาก จำชื่อร้านไม่ได้ แต่ร้านอยู่ในโซน high-end หน่อย รสชาติโอเค แต่ราคาแพงมาก
หลังจากทานข้าว ก็ไปเที่ยว citadel ที่อยู่บนเขาต่อ จากจุดนี้เห็นวิวเมือง 360° เลย สวยดี มองเห็น Roman Theater ด้วย นอกจากนั้นก็มี Temple of Hercules แล้วก็วังและ museum ให้เยี่ยมชม พอเสร็จก็ไปเดินเล่นตลาด souk ก่อนไปทานมื้อเย็นที่ร้าน Fakhr El Din ร้านนี้เป็น fine-dining Middle Eastern นะคะ อาหารอร่อย บริการดีมากๆ ต้องจองก่อนนะ เพราะนอกจากนักท่องเที่ยว ร้านนี้ก็เป็นที่นิยมสำหรับ locals ด้วย
Day 7
ต้องกลับแล้ว!! ยังไม่อยากกลับเลย เราไปถึงสนามบินก่อนเวลา 2ชม ขนาดคืนรถตรง departure ยังขึ้นเครื่องเกือบไม่ทัน แนะนำให้ไปก่อน 3 ชม เพราะ checkin คิวยาวมาก ช้าสุดๆ ถึงแม้จะ online check-in ก็ยังต้องเข้าแถวนะ ดีนะที่ ตม คิวไม่ยาว ไม่งั้นตกเครื่องแน่ๆ สนามบินไม่ได้มีอะไรให้ shopping ขนาดนั้น พวก souvenir ก็แพงมาก ซื้อข้างนอกว่าแพงแล้ว นี่ราคาแบบ USD เลยจ้า
โดยรวม Jordan เป็นประเทศ Arab ที่ปลอดภัยมาก ขับรถเองได้ navigate ไม่ยาก ผญ ไปไหนมาไหนปลอดภัย ไม่เคร่งเรื่องการแต่งตัว แต่เราก็แต่งเรียบร้อยนะ นี่คิดว่ายังไงก็ควร respect culture and traditions อีกอย่างจะได้ไม่เป็นจุดสนใจด้วย
vlog